ตัวบ่งชี้ที่ 5.1 การบริหารองค์การสถาบัน
ตัวบ่งชี้ที่ 5.1 การบริหารองค์การของสถาบัน
ชนิดของตัวบ่งชี้ กระบวนการ
คำอธิบายตัวบ่งชี้
สถาบันอุดมศึกษามีพันธกิจหลัก คือ การเรียนการสอน การวิจัย การบริการทางวิชาการแก่สังคมและการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ในการดำเนินพันธกิจหลัก สถาบันอุดมศึกษาจำเป็นต้องมีการจัดทำแผนเพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาและการดำเนินงานของสถาบันให้สอดคล้องกับเป้าหมายและกลุ่มสถาบัน มีหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ที่เน้นการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์และมีผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา มีการบริหารงานตามพันธกิจและวิสัยทัศน์ ที่บริหารจัดการบุคลากรและทรัพยากรการเรียนรู้ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีระบบประกันคุณภาพการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ สามารถกำกับติดตามการดำเนินงานให้เป็นไปตามกฏกระทรวงว่าด้วยการประกันคุณภาพการศึกษา สอดคล้องกับมาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และมาตรฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ผลการดำเนินการของสถาบัน ที่สามารถสะท้อนคุณภาพการบริหารองค์การของสถาบัน พิจารณาจากการดำเนินการให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด
เกณฑ์มาตรฐาน
1. สถาบันมีการกำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบาย แผนกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการประจำปี โดยใช้ข้อมูลจาก การวิเคราะห์ SWOT เพื่อสร้างความได้เปรียบและโอกาสเชิงกลยุทธ์ ตามกรอบเวลาเพื่อให้บรรลุผลตามตัวบ่งชี้และเป้าหมายของแผนกลยุทธ์
2. สถาบันมีการกำกับ ติดตาม ส่งเสริม สนับสนุนให้ทุกคณะดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน เช่น ต้นทุนต่อหน่วยในแต่ละหลักสูตร ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ เพื่อวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการบริหารหลักสูตร ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบกับสถาบันอื่นๆที่มีจุดเน้นอย่างเดียวกัน เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์การดำเนินการผลิตบัณฑิต ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอก เสริมสร้างความเป็นเลิศในการบริหารงานตามพันธกิจ และสร้างโอกาสในการแข่งขัน
3. สถาบันมีการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบาย แผนกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการประจำปี ให้แก่บุคลากร และผู้เกี่ยวข้องในการนำไปสู่การปฏิบัติ และมีการจัดสรรบุคลากร งบประมาณ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินงานให้บรรลุตามพันธกิจ มีผลลัพธ์การดำเนินการที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
4. สถาบันมีการกำกับ ติดตาม ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อให้เกิดผลสำเร็จตามมาตรฐานการอุดมศึกษา มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และเกิดการพัฒนาผลลัพธ์ที่สำคัญ คือ 1)ผลลัพธ์ตามพันธกิจ คือ ด้านผู้เรียน ด้านการวิจัยและนวัตกรรม ด้านการบริการวิชาการ ด้านศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย 2)ผลลัพธ์ด้านระบบปฎิบัติการ 3)ผลลัพธ์ด้านการมุ่งเน้นบุคลากร 4)ผลลัพธ์ด้านการนำองค์การ
5. สถาบันมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการดำเนินการจัดระบบรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ และจัดการข้อมูลที่เหมาะสม และมีการใช้ข้อมูลหรือผลที่ได้จากแนวปฏิบัติที่ดีหรือการจัดการความรู้จากการดำเนินการของหน่วยงานต่างๆ มาใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดแนวทางที่ส่งเสริมให้เกิดการบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล และเป็นไปตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
6. สถาบันมีการกำกับ ติดตาม การดำเนินงานตามแผนการบริหารและแผนพัฒนาบุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุน ให้มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างบรรยากาศการทำงานที่เกื้อหนุนการใช้ศักยภาพของบุคลากร สร้างความผูกพันต่อองค์การ และทำให้องค์การมีผลการดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมาย หรือสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนด
7. สถาบันมีการวัดวิเคราะห์ผลลัพธ์ และการใช้ข้อมูลที่ได้จากการปฏิสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อค้นหาความต้องการใหม่ รวมถึงค้นหาโอกาสในการพัฒนา หลักสูตร การวิจัยและนวัตกรรม การบริการวิชาการ ศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย เพื่อการทบทวนหรือปรับปรุงการดำเนินการให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและความต้องการของสังคม สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดจนใช้ในการบริหารความเสี่ยงโดยรวมของสถาบัน
8. สถาบันมีการประเมินความสำเร็จแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการประจำปี มีการรายงานผลการประเมินความสำเร็จตามแผนต่อสภาสถาบัน ตลอดจนนำผลการประเมินและข้อเสนอแนะจากสภาสถาบันไปพัฒนาแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติงานประจำปี เพื่อให้การบริหารองค์การมีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และรองรับความต้องการในอนาคต
เกณฑ์การประเมิน
คะแนน 1 | คะแนน 2 | คะแนน 3 | คะแนน 4 | คะแนน 5 |
มีการดำเนินการ 1 ข้อ | มีการดำเนินการ 2-3 ข้อ | มีการดำเนินการ 4-5 ข้อ | มีการดำเนินการ 6-7 ข้อ | มีการดำเนินการ 8 ข้อ |
ผลการดำเนินงาน
1. การพัฒนาแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อสร้างความได้เปรียบและโอกาสเชิงกลยุทธ์ มีการดำเนินการดังนี้
การจัดทำแผนกลยุทธ์ คณะกรรมการนโยบายและแผนวิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซา(5.1.1.1) ได้มีการดำเนินการในช่วงปลายปี พ.ศ. 2562 โดยการวิเคราะห์ศักยภาพของสถาบัน (SWOT) และได้นำข้อมูลจากการวิเคราะห์ SWOT มากำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจของสถาบันเพื่อสร้างความได้เปรียบและโอกาสเชิงกลยุทธ์(5.1.1.2) รวมไปถึงการพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2563-2567) ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ที่จัดทำตามกรอบวิสัยทัศน์และพันธกิจของวิทยาลัย อันได้แก่การเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งการสร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพบนพื้นฐานความเป็นนานาชาติ และการมีสมรรถนะทางวิชาชีพและสมรรถนะด้านภาษาอังกฤษที่เป็นเลิศ(5.1.1.3) ตลอดจนมีความเชื่อมโยงระหว่างยุทธศาสตร์ของวิทยาลัย กับ ยุทธศาสตร์อุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม มาตรฐานการศึกษาของชาติกรอบแนวทางปฏิรูปการศึกษา และยุทธศาสตร์การวิจัย (5.1.1.4)
การจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา 2563 คณะกรรมการนโยบายและแผนได้รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการปีการศึกษา 2562 และข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา 2563 ซึ่งเป็นการจัดทำแผนปฏิบัติการภายใต้กระบวนการจัดทำแบบมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์โดยกำหนดและจัดสรรแผนงาน โครงการ และงบประมาณ ให้สอดคล้องกับตัวชี้วัด พันธกิจ นโยบาย และเป้าหมายของแผนยุทธศาสตร์ (5.1.1.5) พร้อมทั้งนำเสนอแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา 2563 ไปยังคณะกรรมการบริหารวิทยาลัยเพื่อขอความเห็นชอบ และได้รับการอนุมัติจากสภาสถาบันตามระยะเวลาที่กำหนดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 (5.1.1.6)
2. การวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินเพื่อวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการบริหารหลักสูตร และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบกับสถาบันอื่นๆที่มีจุดเน้นอย่างเดียวกัน เพื่อใช้ในการบริหารงาน
คณะกรรมการนโยบายและแผน มีการกำกับ ติดตาม ส่งเสริม และสนับสนุนผ่านการจัดประชุมอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้คณะวิชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการตามแผนปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิภาพ(5.1.2.1) รวมไปถึงให้ทุกคณะดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินโดยคณะวิชาได้วิเคราะห์ต้นทุนต่อหน่วยของทุกหลักสูตร ซึ่งประกอบด้วย สัดส่วนรายได้และสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่าง ๆ ได้แก่ สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการเรียนการสอน เช่น การพัฒนานักศึกษา การพัฒนาอาจารย์ และบุคลากรสนับสนุน และสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ในการจัดการศึกษา มาทำการวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการบริหารหลักสูตรทุกหลักสูตรของคณะวิชาในปีการศึกษา 2563 ซึ่งพบว่าทุกคณะวิชามีความคุ้มค่าในการดำเนินการ โดยคณะที่มีความคุ้มค่าของการบริหารหลักสูตรมากที่สุดได้แก่ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะศึกษาศาสตร์ และคณะมนุษยศาสตร์ฯ ตามลำดับ (5.1.2.2)
วิทยาลัยมีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบกับสถาบันที่มีจุดเน้นอย่างเดียวกันเพื่อใช้ในการบริหาร โดยสถาบันที่เลือกมาวิเคราะห์นั้นมีการเรียนการสอนในคณะวิชาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบตามหลักการ 4 มิติของบาลานสกอร์การ์ด พบว่าทั้งสองสถาบันมีอัตราการรับนักศึกษาใหม่ลดลงเนื่องจากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโควิด19 ส่วนด้านการพัฒนา ด้านกระบวนการ และด้านประสิทธิภาพการทำงานนั้นทั้งสองสถาบันมีการพัฒนาที่ไม่ต่างกันมากนัก นอกจากนี้การวิเคราะห์ข้อมูลเปรียบเทียบตามการจัดอันดับมหาวิทยาลัยจาก Webometric Thailand พบว่าผลการจัดอันดับประจำเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซาอยู่ในอันดับที่ 118 จากสถาบันอุดมศึกษาทั้งสิ้น 189 สถาบัน(5.1.2.3) ถึงแม้ว่าจำนวนสถาบันอุดมศึกษาในประเทศจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นแต่วิทยาลัยยังคงรักษาอันดับอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกับปีที่แล้วซึ่งแสดงให้ถึงการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ การบริหารหลักสูตรที่เป็นไปอย่างคุ้มค่าทำให้เกิดประสิทธิผลและการพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง
3. การถ่ายทอดวิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบาย แผนกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการประจำปี ที่นำไปสู่การปฏิบัติ
คณะกรรมการนโยบายและแผนได้รับหน้าที่ในการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบาย กลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการประจำปีแก่บุคลากรและผู้เกี่ยวข้องในการนำไปสู่การปฏิบัติ รวมไปถึงการถ่ายทอดแผนยุทธศาสตร์ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2563-2567) และแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา 2563 โดยข้อมูลดังกล่าวถูกถ่ายทอดไปยังบุคลากรและบุคคลที่เกี่ยวข้องผ่านการประชุมต่าง ๆ ดังนี้ การประชุมบุคลากรประจำปี(5.1.3.1) การประชุมคณะกรรมการนักศึกษา(5.1.3.2) และการประชุมผู้บริหาร(5.1.3.3) เป็นต้น
นอกจากนี้คณะกรรมการนโยบายและแผนยังดำเนินการจัดสรรบุคลากร งบประมาณ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุพันธกิจที่กำหนด พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณให้คณะวิชาและหน่วยงานในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยพันธกิจที่มีการจัดสรรงบประมาณในสัดส่วนที่สูงสุดได้แก่ พันธกิจการบริหารจัดการ พันธกิจการผลิตบัณฑิต พันธกิจการวิจัยและนวัตกรรม พันธกิจการบริการวิชาการแก่สังคม และ พันธกิจทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย ตามลำดับ (5.1.3.4)
ผลลัพธ์ตาม วิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบาย และเอกลักษณ์ของวิทยาลัยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผลลัพธ์ของบัณฑิตด้านสมรรถนะทางวิชาชีพและสมรรถนะด้านภาษาอังกฤษนั้นเป็นไปตามความต้องการของสถานประกอบการ ส่งผลให้การประกอบอาชีพของบัณฑิตจบใหม่มีร้อยละสูงถึง 87.79 แม้ว่าจะอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 (5.1.3.5)
4. การกำกับ ติดตาม ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผนกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อให้เกิดการพัฒนาผลลัพธ์ที่สำคัญตามมาตรฐานการอุดมศึกษา
คณะกรรมการนโยบายและแผนได้รับมอบหมายหน้าที่ในการกำกับ ติดตาม คณะวิชาและทุกหน่วยงานในสถาบันเรื่องการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษาและแผนกลยุทธ์ พร้อมทั้งรายงานผลการติดตามไปยังอธิการบดีและผู้บริหารเพื่อรับทราบอย่างต่อเนื่องผ่านการประชุมผู้บริหารและการประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผน รวมไปถึงรายงานผลสรุปการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการประจำปี โดยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะครึ่งปีการศึกษา(5.1.4.1) และระยะสิ้นสุดปีการศึกษา(5.1.4.2) เพื่อให้เกิดผลสำเร็จตามมาตรฐานการอุดมศึกษา มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา และกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ
จากการกำกับ ติดตามข้างต้นทำให้การดำเนินการของคณะวิชาและหน่วยงานเป็นไปตามแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา 2563 จำแนกออกเป็น 3 มิติ ดังนี้ 1)มิติโครงการ บรรลุผลร้อยละ 87.92 2)มิติงบประมาณ บรรลุผลร้อยละ 95.55 3)มิติตัวชี้วัดบรรลุผลร้อยละ 87.44 อีกทั้งยังเกิดการพัฒนาผลลัพธ์ที่สำคัญ ไก้แก่ ผลลัพธ์ตามพันธกิจ ผลลัพธ์ด้านระบบปฏิบัติการ ผลลัพธ์ด้านการมุ่งเน้นบุคลากร ผลลัพธ์ด้านการนำองค์การ (5.1.4.3) รายละเอียดดังนี้
4.1 ผลลัพธ์ตามพันธกิจ 1)ด้านผู้เรียน ผู้เรียนมีคุณลักษณะผลลัพธ์เป็นผู้รอบรู้ เป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์ และเป็นพลเมืองที่ดีตามกรอบคุณวุฒิอุดมศึกษาแห่งชาติ และให้มีคุณลักษณะผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษาที่กำหนด 2)ด้านการวิจัยและนวัตกรรม มีการยกระดับคณาจารย์ให้มีผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารระดับประเทศและระดับนานาชาติตามเกณฑ์ที่กำหนด 3)ด้านการบริการวิชาการ มีการยกระดับความเชี่ยวชาญของอาจารย์และบุคลากรพร้อมทั้ง ให้การบริการวิชาการเพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชน โดยสามารถพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งทั้งด้านสุขภาพและด้านพัฒนาคุณภาพชีวิต 4)ด้านศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย วิทยาลัยฯสนับสนุนให้ทุกคณะวิชามีส่วนร่วมและจัดโครงการหรือกิจกรรมร่วมกับโครงการคืนคุณแผ่นดินเพื่อสร้างสรรค์สาธารณประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ต่อประเทศชาติและสังคม/ชุมชน เช่น โครงการภาพยนตร์หนังสั้น “ปรุง” ขนมไทยสู่เวทีโลก วิสาหกิจชุมชนเพียรหยด เป็นต้น
4.2 ผลลัพธ์ด้านระบบปฏิบัติการ สถาบันมีระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นเอง เพื่อกำกับ ติดตาม ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามแผน ตามพันธกิจ และตามวิสัยทัศน์ของวิทยาลัย 1) จัดทำระบบฐานข้อมูล STIC-CHE QA เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานและทำให้การทำงานมีระบบที่ชัดเจนซึ่งนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง 2) พัฒนาระบบ MIS ของวิทยาลัยพร้อมทั้งพัฒนาฐานข้อมูลการจัดทำ TQF 3, TQF 5 3) การใช้ระบบ Moodle กำหนดบทเรียนและแบบทดสอบเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนภาษาอังกฤษของนักศึกษา 4) การพัฒนาระบบสำหรับการเรียนการสอน การสอบ และระบบการนิเทศการสอนแบบออนไลน์ 5) ระบบการคัดกรองนักศึกษาและบุคลากรโดยบันทึกการเข้า-ออกด้วยคิวอาร์โค้ด และการซักประวัติเบื้องต้นตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19
4.3 ผลลัพธ์ด้านการมุ่งเน้นบุคลากร มีการจัดกิจกรรมและการอบรมส่วนรวมอย่างต่อเนื่องภายในปีการศึกษา เพื่อเป็นการสร้างความผูกพันภายในองค์กร รวมถึงทำให้เกิดความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีร่วมกันในหมู่ ผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคลลากร พร้อมทั้งมีการแบ่งงานเป็นสัดส่วนชัดเจน เช่น การแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อรับผิดชอบหน้าที่และปฏิบัติในงานนั้น ๆ รวมไปถึงให้บุคลากรมีส่วนในการวางแผน แสดงความคิดเห็น และดำเนินงาน อีกทั้งความสามารถของบุคลากรทุกระดับยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องส่งผลให้การปฏิบัติงานของคณะวิชาและหน่วยงานมีประสิทธิภาพ
4.4 ผลลัพธ์ด้านการนำองค์การ อธิการบดี ร่วมกับผู้บริหารทุกระดับ มีความตั้งใจและแน่วแน่ในการนำองค์การ โดยมีวัตถุประสงค์ให้สถาบันนั้นบรรลุผลตามวิสัยทัศน์ที่กำหนด คือ “การเป็นวิทยาลัยแห่งการสร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพ มีทักษะการเรียนรู้แห่งอนาคต บนพื้นฐานความเป็นนานาชาติ” เพื่อที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวนั้นจึงมีการสื่อสารกับบุคลากรทั้งในรูปแบบทางการและไม่เป็นทางการอย่างสม่ำเสมอ รวมไปถึงการเป็นแบบอย่างที่ดีโดยการปฏิบัติตนตามหลักจรรยาบรรณวิชาชีพและหลักธรรมาภิบาลผู้นำ ส่งผลให้วิทยาลัยเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีคุณภาพ 1)สามารถจัดทำมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาให้สอดคล้องกับ กฎกระทรวงว่าด้วยการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561และมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2561 2)สามารถพัฒนาภาษาอังกฤษที่มีระดับค่อนข้างต่ำของผู้เรียนไปสู่การเป็นบัณฑิตที่มีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษเพื่อการประกอบอาชีพได้ 3)สามารถปรับตัวและเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด19 เช่น การเรียน การสอน การปฏิบัติงาน และการประชุมแบบออนไลน์ที่มีความพร้อมและประสิทธิภาพสูง เป็นต้น
5. การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และการใช้ข้อมูลหรือผลที่ได้จากแนวปฏิบัติที่ดีหรือการจัดการความรู้ ส่งเสริมให้เกิดการบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล และเป็นไปตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
วิทยาลัยมีการพัฒนาและใช้ระบบจัดการข้อมูลสารสนเทศเพื่อการบริหาร หรือ MIS (Management Information System) สำหรับการรวบรวมและจัดการข้อมูลให้เป็นระเบียบพร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการหาข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลด้านวิชาการ เช่น มาตรฐานการอุดมศึกษา ข้อมูลนักศึกษาและบุคคล ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลทางด้านผลงานวิจัย รวมไปถึงการเก็บผลงานของนักศึกษา เป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ผ่านทางคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยฝ่ายไอทีได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบในการดูแลเว็บไซต์MIS (5.1.5.1)
นอกจากนี้วิทยาลัยได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการการจัดการความรู้ ปีการศึกษา 2563 (5.1.5.2) เพื่อดำเนินการแลกเปลี่ยนความรู้และแนวทางการปฏิบัติงานที่ดีในระดับคณะวิชาและระดับสถาบัน โดยการจัดการความรู้จะแบ่งออกเป็นปีการศึกษาละ 2 ครั้ง หรือภาคเรียนละ 1 ครั้ง การจัดการความรู้ที่นำเสนอแบ่งออกเป็น การจัดการความรู้ด้านการเรียนการสอน และการจัดการความรู้ด้านวิจัย อีกทั้งการจัดการความรู้ในปีการศึกษา 2563 นั้นยังได้มุ่งเน้นไปที่แนวทางการปรับตัวด้านการเรียนการสอนและแนวทางปฏิบัติในยุคของการแพร่ระบาดของโควิด 19 โดยหัวข้อการจัดการความรู้ทั้ง 2 ครั้ง คือ 1) Strategies and Techniques Disruption for Learning and Development 2) Disrupted University in the Transition to New Normal (5.1.5.3)
จากการแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินการบริหารงาน(5.1.5.4) คณะกรรมการได้นำข้อมูลจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและข้อมูลการจัดการความรู้ไปแลกเปลี่ยนและปฏิบัติในหน่วยงานต่างๆภายในองค์กร และนำผลที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาระบบและกลไก จนส่งผลให้เกิดแนวทางปฏิบัติที่ดีที่มีการนำไปปฏิบัติต่อไป ยกตัวอย่างเช่น การทำคู่มือ Hybrid learning และนำไปเผยแพร่ต่อคณะวิชาเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เป็นต้น รวมไปถึงผู้บริหารทุกระดับมีการบริหารงานที่ตรวจสอบได้ เป็นระบบ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล และเป็นไปตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ผลการประเมินการบริหารงานในภาพรวมมีคะแนนอยู่ในระดับดีมาก (5.1.5.5)
6. การกำกับ ติดตาม การดำเนินงานตามแผนการบริหารและแผนพัฒนาบุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุน
คณะกรรมการบริหาร(5.1.6.1)ได้รับมอบหมายให้กำกับ ติดตาม การดำเนินงานตามแผนการบริหารงานบุคคล(5.1.6.2)และแผนพัฒนาบุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุน(5.1.6.3) โดยแผนบริหารงานบุคคลและแผนพัฒนาบุคลากรมีการส่งเสริมให้บุคลากรสามารถพัฒนาได้อย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมที่อำนวยความสะดวกต่อการปฏิบัติงานและจัดหาสวัสดิการที่เกื้อหนุนการใช้ศักยภาพของบุคลากรและทำให้สามารถทำงานอย่างความสุขและบรรลุผลตามเป้าหมาย ซึ่งจากการดำเนินการตามแผนพบว่าผลลัพธ์เป็นไปตามแผนที่กำหนด เช่น บุคลากรทุกระดับร่วมกิจกรรมและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีสวัสดิการที่พัก รถรับส่งและการรักษาตามที่กำหนด บุคลากรทุกระดับมีการใช้ข้อมูลสารสนเทศ มีการรับอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพิ่มตามอัตราที่กำหนด เป็นต้น (5.1.6.4) ส่งผลให้วิทยาลัยมีการพัฒนาไปตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่กำหนด ได้แก่ 1)การมีระบบทรัพยากรบุคคลที่ทันสมัยและสอดคล้องกับการบริหารงานบุคคลแนวใหม่ 2)การให้ประโยชน์แก่บุคลากรในองค์กรอย่างเท่าเทียม 3)การสร้างบุคลากรให้มีวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ อีกทั้งผลสำรวจความพึงพอใจในการดำเนินการตามแผนการบริหารและแผนพัฒนาบุคลากร ของอาจารย์และบุคลากร มีคะแนนอยู่ในระดับดีมาก (5.1.6.5)
7. การวัดวิเคราะห์ผลลัพธ์ เพื่อการทบทวนหรือปรับปรุงการดำเนินการ และการจัดการความเสี่ยง
วิทยาลัยมีการวัดและวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่ได้จากการดำเนินการ ดังนี้
7.1 วิทยาลัยได้ทำการวิเคราะห์ผลจากการจัดการเรียนการสอน ผลการตรวจสอบคุณภาพ ความต้องการของผู้ประกอบการ และวิเคราะห์ความพร้อมของวิทยาลัย พบว่าทางวิทยาลัยมีความพร้อมและมีศักยภาพเพียงพอต่อการจัดทำหลักสูตรใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของสังคม จึงได้จัดทำหลักสูตรใหม่รวม 2 หลักสูตร ได้แก่ 1)หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาธุรกิจการบิน (หลักสูตรนานาชาติ/หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2563) 2)หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการจัดการเรียนรู้ (หลักสูตรใหม่ พ.ศ.2563) ซึ่งทั้ง 2 หลักสูตรได้ผ่านการรับทราบ จาก สป อว. แล้ว (5.1.7.1)
7.2 จากข้อมูลการวิจัยและนวัตกรรมพบว่า ปีการศึกษา2563 คณะวิชามีการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานวิจัยในวารสารวิชาการระดับนานาชาติเป็นจำนวนมาก โดยคณะวิชาที่มีการตีพิมพ์มากที่สุดได้แก่ คณะศึกษาศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะสาธารณสุขศาสตร์ และคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ ตามลำดับ (5.1.7.2) และเพื่อให้การวิจัยและนวัตกรรม เป็นไปตามความต้องการของระดับประเทศไทยและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ทางวิทยาลัยจึงได้ดำเนินการต่อยอดงานบริการวิชาการเป็นงานวิจัย จำนวน 7 โครงการ โดยได้รับทุนในการดำเนินการจากหน่วยงานภายนอก จำนวนเงิน 1,397,210 บาท
7.3 การวิเคราะห์ผลลัพธ์ที่เกิดจากการให้บริการวิชาการและผลลัพธ์ด้านศิลปวัฒนธรรมไทยโดยใช้ข้อมูลที่ได้จากการปฏิสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้เสีย ได้แก่ ชุมชนที่รับบริการ โรงเรียนที่รับการบริการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางวิทยาลัยพบว่าชุมชนที่รับบริการนั้นมีความต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่หลากหลาย และช่วงอายุของประชากรในชุมชนมีตั้งแต่ช่วงเด็กไปถึงผู้สูงอายุ ซึ่งการดำเนินงานในปีการศึกษา 2563 นั้น คณะกรรมการบริการวิชาการ(5.1.7.3) และคณะกรรมการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม มีการปรับและพัฒนาวิธีการดำเนินการให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ความต้องการของสังคม และดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคระบาดของไวรัสโควิด 19 พร้อมทั้งวิทยาลัยได้มีการร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกในการให้บริการวิชาการ เช่น โครงการ STEM-Ed ที่ร่วมมือกับ SEAMEO-Enjoy-Science โดยมีจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้น Non-degree จำนวน 2 หลักสูตร รวมไปทั้งการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศ เช่น ศูนย์ดูแลให้คำปรึกษาด้านการดูแลผู้สูงอายุให้กับชุมชน ศูนย์ให้คำปรึกษาพัฒนา SME สู่ธุรกิจ start up เป็นต้น ซึ่งผลการดำเนินการพบว่าความรู้ด้านสุขภาพและด้านการวางแผนธุรกิจของชุมชนมีการพัฒนาในระดับที่ดีขึ้น (5.1.7.4)
7.4 คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง(5.1.7.5) ได้นำข้อมูลจากการการวิเคราะห์ผลลัพธ์ ข้อมูลที่ได้จากการปฏิสัมพันธ์กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มาทำการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก ปัจจัยภายใน และระดับความเสี่ยง เพื่อจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงระดับสถาบัน และจากการดำเนินการตามแผนบริหารความเสี่ยงพบว่าผลการดำเนินงานเป็นไปตามแผนบริหารความเสี่ยง และปัจจัยความเสี่ยงทั้งหมดมีระดับความเสี่ยงลดลงพร้อมทั้งจัดทำรายงานผลเสนอต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อรับทราบ (5.1.7.6)
8. การประเมินความสำเร็จแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการประจำปี การรายงานผลการประเมินความสำเร็จตามแผนและการประกันคุณภาพการศึกษาของสถาบันต่อสภาสถาบัน จากการประเมินความสำเร็จตามแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา 2563 พบว่าการดำเนินการนั้นบรรลุวัตถุประสงค์ตามตัวชี้วัดที่กำหนดตามแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา(5.1.8.1)
วิทยาลัยได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน(5.1.8.2) เพื่อรับผิดชอบหน้าที่ในด้านการกำกับ ติดตาม และสนับสนุนให้อาจารย์และคณะวิชาดำเนินการด้านประกันคุณภาพได้ตามระบบและวันเวลาที่กำหนด รวมไปถึงการจัดอบรมให้ข้อมูลตามคู่มือประกันคุณภาพการศึกษา(5.1.8.3) เพื่อให้การดำเนินงานนั้นเป็นไปตามเกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา โดยมีการใช้ระบบ STIC CHE QA ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารในการติดตาม ควบคุม และตรวจสอบให้การดำเนินการนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ(5.1.8.4) พร้อมทั้งคณะกรรมการการประกันคุณภาพการศึกษามีการตรวจประเมินคุณภาพภายในสถาบันเมื่อสิ้นสุดปีการศึกษา
วิทยาลัยมีการรายงานผลความสำเร็จตามแผนและรายงานผลการดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาต่อสภาสถาบัน และได้นำผลการประเมินพร้อมทั้งข้อเสนอแนะมาพัฒนาแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติงานประจำปี เพื่อให้การบริหารองค์การนั้นสามารถพัฒนาได้อย่างมีคุณภาพ มั่นคง และ ปรับตัวได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมถึงมีความพร้อมในการรองรับความต้องการต่าง ๆ ในอนาคต(5.1.8.5)
สภาวิทยาลัยสามารถ กำกับ ดูแล การบริหารองค์การของวิทยาลัยในทุกพันธกิจให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามกฎกระทรวงว่าด้วยการประกันคุณภาพ มาตรฐานการอุดมศึกษา มาตรฐานหลักสูตรระดับอุดมศึกษา กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และกำกับดูแลการบริหารงานของอธิการบดี ให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และรองรับความต้องการในอนาคต(5.1.8.6)
การบรรลุเป้าหมาย
บรรลุเป้าหมาย เพราะวิทยาลัยกำหนดเป้าหมายของ ตัวบ่งชี้ที่ 5.1 การบริหารองค์การของสถาบัน เพื่อการกำกับติดตามผลลัพธ์ตามพันธกิจ ของกลุ่มสถาบันและเอกลักษณ์ของสถาบัน สามารถดำเนินการได้ 8 ข้อ
เป้าหมาย | ผลการดำเนินการ | คะแนนที่ประเมินตนเอง |
7 ข้อ | 8 ข้อ | 5 คะแนน |
หลักฐานเอกสารอ้างอิง