1.1 หน่วยงาน ที่ตั้ง และประวัติความเป็นมาโดยย่อ
วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซา
ที่ตั้ง
เลขที่ 1 หมู่ 6 ตำบลบึงศาล อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก
โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 95 ไร่ พื้นที่ใช้สอย 15,230 ตารางเมตร
ประวัติความเป็นมาโดยย่อ
วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซา เดิมชื่อ “วิทยาลัยเซนต์เทเรซา อินติ (St Theresa Inti College)” จัดตั้งเป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา เมื่อพ.ศ. 2538 โดยการร่วมทุนระหว่างโรงเรียนนานาชาติบริหารธุรกิจเซนต์เทเรซา ประเทศไทย กับวิทยาลัยอินติ ประเทศมาเลเซีย และใช้ชื่อในระยะก่อตั้งคือ วิทยาลัยเซนต์เทเรซา อินติ และได้รับประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2544
ในปีพ.ศ. 2546 ได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษาที่เป็นสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในการเรียนการสอนทุกหลักสูตรจากทบวงมหาวิทยาลัย
ในปีการศึกษา 2552 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซา (St Theresa International College)” วิทยาลัยฯมีความร่วมมือในการผลิตบัณฑิตร่วมกับสถาบันในต่างประเทศ เช่น มหาวิทยาลัย University of East London สหราชอาณาจักรอังกฤษ, สถาบันเทคโนโลยี Wairiki ประเทศนิวซีแลนด์ และมหาวิทยาลัย Patten ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยนักศึกษาไทยและต่างชาติของวิทยาลัยฯสามารถโอนหน่วยกิตไปศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาต่างประเทศและมีโอกาสได้รับปริญญาบัตรจากทั้งสองสถาบัน (Dual Program)
ในปีการศึกษา 2554 วิทยาลัยได้รับการตรวจประเมินคุณภาพภายนอกรอบสามจากคณะผู้ตรวจประเมินภายนอกจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ในระดับสถาบันและคณะวิชา รวม 4 คณะวิชา ได้แก่คณะบริหารธุรกิจ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ และคณะมนุษยศาสตร์
ในปีการศึกษา 2555 คณะมนุษยศาสตร์ได้เปลี่ยนชื่อเป็น คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
ในปีการศึกษา 2556 วิทยาลัยได้ดำเนินการสอนในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท รวม 4 คณะวิชา ได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ และคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โดยมีนักศึกษาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ในปีการศึกษา 2557 วิทยาลัยได้แยกหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาออกจากคณะคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มาเปิดเป็นคณะศึกษาศาสตร์ จึงทำให้วิทยาลัยเปิดดำเนินการสอนในระดับปริญญาตรี และปริญญาโท รวม 5 คณะวิชา ได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ คณะพยาบาลศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์
ในปีการศึกษา 2558 วิทยาลัยได้เปิดสอนเพิ่มขึ้น 3 หลักสูตร คือ หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ และ หลักสูตรประกาศนียบัตร สาขาวิชาชีพครู ปีการศึกษา 2559 วิทยาลัยได้เปิดสอนเพิ่มขึ้น 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการบิน และหลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์ทั่วไป และมีการปิดหลักสูตรในระดับปริญญาโท 1 หลักสูตรคือ หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (หลักสูตรภาษาไทย)
ปีการศึกษา 2560 วิทยาลัยเปิดสอนเพิ่มขึ้น 2 หลักสูตร คือหลักสูตรบัญชีบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี และหลักสูตรศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา ในปีการศึกษา 2561 วิทยาลัยได้รับการตรวจรับรองวิทยฐานะจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2562 โดย สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้ให้การรับรองในระดับหลักสูตรและรับสถาบัน และในปีการศึกษา 2562 วิทยาลัยมีการปิดหลักสูตรระดับปริญญาโท 1 หลักสูตร คือหลักสูตรศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา
ปัจจุบัน ในปีการศึกษา 2563 วิทยาลัยมีการพัฒนาหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ ออกเป็น 2 หลักสูตรคือ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ และหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาธุรกิจการบิน และเปิดเพิ่มหลักสูตรใหม่ 1 หลักสูตร คือหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการจัดการเรียนรู้ จึงมีหลักสูตรที่เปิดสอนรวม 19 หลักสูตร เป็นหลักสูตรระดับปริญญาตรี 13 หลักสูตร และหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา 6 หลักสูตร
อธิการบดี ดร.ปิยะดา วรรธนะสาร
– Ph.D. (Education Management) Adamson University
– MBA. (Master in Business Administration) Management Centre, University of
Bradford, England
– BBA. (Bachelor of Business Administration) Assumption University
1.2 ปรัชญา ปณิธาน วิสัยทัศน์ เป้าประสงค์และวัตถุประสงค์ ค่านิยมร่วม คติพจน์ พันธกิจ พฤติกรรมที่พึงประสงค์ของนักศึกษา และอัตลักษณ์และจุดเน้น/จุดเด่นของวิทยาลัย
ปรัชญา (Philosophy)
การจัดการศึกษาที่ดีมีคุณภาพจะพัฒนาให้ประสบความสำเร็จ และมีสังคมชีวิตที่ดี
ปณิธาน (Determination)
วิทยาลัยนานาชาติ เซนต์เทเรซา มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสถาบันให้เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีคุณภาพและมาตรฐานสากล
นโยบายการบริหาร (Administrative Policy)
วิทยาลัยฯกำหนดนโยบายด้านการบริหารจัดการ โดยผ่านความเห็นชอบจากสภาวิทยาลัย ดังนี้
1) ผลิตบัณฑิตที่มีความโดดเด่นและความเชี่ยวชาญด้านภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ
2) เร่งผลิตบัณฑิตและพัฒนากำลังคนให้เป็นคนดี มีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของ
ประเทศชาติ
3) ส่งเสริมสนับสนุนพัฒนาความรู้ความสามารถให้กับคณาจารย์และบุคลากรสายสนับสนุนการศึกษา
ด้านภาษาอังกฤษและวิชาชีพ เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน
4) ส่งเสริมให้มีการผลิตผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาด้านวิชาการและพัฒนาท้องถิ่น
5) ส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนาเพื่อจัดระบบองค์ความรู้นำไปสู่การถ่ายทอดความรู้สู่ชุมชน
6) พัฒนาระบบและกลไกประกันคุณภาพการศึกษาที่สามารถสร้างคุณภาพการศึกษาได้อย่างแท้จริง
7) สร้างระบบการบริหารองค์กร โดยใช้หลักธรรมาภิบาลและการมีส่วนร่วมของบุคลากรในวิทยาลัย
และชุมชน
วัตถุประสงค์ (Objective)
- ผลิตบัณฑิตและพัฒนาบุคลากรทั้งภายในและภายนอกบนพื้นฐานความรู้คู่คุณธรรม ทักษะสากล
และความเป็นพลเมืองดี
2) วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ในศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมและชุมชน
- ให้บริการวิชาการแก่สังคมที่มีคุณภาพ ทำให้เกิดความเข้มแข็งของชุมชน สังคม และการสร้าง
มูลค่าเพิ่ม
- ส่งเสริมค่านิยม ความเป็นไทย และธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีอันดี
งามของชาติไทย
- บริหารจัดการโดยใช้หลักธรรมาภิบาล ก่อให้เกิดผลลัพธ์ขององค์กรสอดคล้องกับคุณภาพ
มาตรฐาน ระดับชาติและสากล
วิสัยทัศน์ (Vision)
เป็นมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับในระดับชาติและระดับนานาชาติ
ค่านิยมร่วม (Shared Value)
คนที่มีคุณค่าสามารถสร้างผลงานที่มีคุณค่า ส่งผลให้องค์กรทวีคุณค่า
คติพจน์/คำขวัญ (Slogan)
การศึกษาคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
Education is the key for success.
พันธกิจ (Mission)
1) ผลิตบัณฑิตที่มีสมรรถนะสูงด้านวิชาการ วิชาชีพ และภาษาอังกฤษ
2) พัฒนางานวิจัยและผลงานวิชาการ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ
3) พัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศทางด้านวิชาการ วิชาชีพ และภาษาอังกฤษ
4) ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมไทยและนานาชาติให้เป็นสังคมพหุวัฒนธรรม
5) บริหารจัดการองค์กรสู่ความเป็นเลิศ
คุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ (Graduates’ Characteristics)
ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานอย่างมืออาชีพ
1) มีทัศนคติที่ดีต่อตนเองและสังคม ยึดมั่นคุณธรรมและจริยธรรมในการดำรงชีวิต
2) มีความรู้ความสามารถสูงในสาขาอาชีพ
3) มีความสามารถในการคิดเชิงวิเคราะห์ และแก้ปัญหาได้อย่างมีเหตุมีผล
4) มีภาวะผู้นำ มีความรับผิดชอบ สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี
5) มีทักษะในการติดต่อสื่อสาร และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
6) มีความสามารถในการประยุกต์แนวคิด ทฤษฎี สู่การปฏิบัติ
7) ใฝ่รู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง
อัตลักษณ์และเอกลักษณ์ของวิทยาลัย
อัตลักษณ์ของสถาบัน (College’s Identity)
“ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ” นักศึกษา บุคลากรทุกระดับสามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารทั้งในด้านวิชาการ และวิถีชีวิตประจำวัน
จุดเน้นที่สะท้อนเป็นเอกลักษณ์ของสถาบัน (College’s Uniqueness)
“ความเป็นนานาชาติ” มีการจัดการศึกษามุ่งเน้นทักษะสากล (การใช้ภาษาอังกฤษ) รวมทั้งส่งเสริมความเป็นนานาชาติในด้านวัฒนธรรมสากล บนพื้นฐานความเป็นไทย และความเป็นอยู่ร่วมกันอย่างผสมกลมกลืน (Harmony)
1.3 โครงสร้างการบริหาร
โครงสร้างองค์กรและโครงสร้างการบริหารตามแผนภูมิที่ 1

1.4 รายชื่อผู้บริหาร กรรมการสภาวิทยาลัย กรรมการบริหารชุดปัจจุบัน
ผู้บริหาร
1) ดร. วิรัชนี พรหมสุนทร อุปนายกสภาวิทยาลัย
2) ดร. ปิยะดา วรรธนะสาร อธิการบดี
3) ดร. ชัยภัฎ วรรธนะสาร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ
4) นายสุวัฒน์ เบญจะธรรมธร รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร
5) นายสุวัฒน์ เบญจะธรรมธร รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา
กรรมการสภาวิทยาลัย
1) รองศาสตราจารย์ ดร. สากล จริยวิทยานนท์ นายกสภาวิทยาลัย
2) ดร. วิรัชนี พรหมสุนทร กรรมการสภาวิทยาลัย
3) นายนพดล สระวาสี กรรมการสภาวิทยาลัย
4) ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.อัจฉรา วงศ์โสธร กรรมการสภาวิทยาลัย
5) ศาสตราจารย์ ดร.มรรยาท รุจิวิชชญ์ กรรมการสภาวิทยาลัย
6) ดร. พลสัณห์ โพธิ์ศรีทอง กรรมการสภาวิทยาลัย
7) นายแพทย์โกมล วงศ์ศรีศาสตร์ กรรมการสภาวิทยาลัย
8) นางพรเพ็ญ พรหมสุนทร กรรมการสภาวิทยาลัย
9) ดร. ชัยภัฎ วรรธนะสาร กรรมการสภาวิทยาลัย
10) นางสาววิภา เพ็งเสงี่ยม กรรมการสภาวิทยาลัย
11) ดร. ปิยะดา วรรธนะสาร กรรมการสภาวิทยาลัย
คณะกรรมการบริหารวิทยาลัย
1) ดร. วิรัชนี พรหมสุนทร อุปนายกสภา ที่ปรึกษา
2) ดร.ปิยะดา วรรธนะสาร อธิการบดี ประธานกรรมการ
3) ดร.ชัยภัฏ วรรธนะสาร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ กรรมการ
4) นายสุวัฒน์ เบญจะธรรมธร รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร กรรมการ
5) รศ. ดร. เตมีย์ ภิรมย์สวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป กรรมการ
6) ผศ. ดร. วิเชียร พันธ์เครือบุตร รองอธิการบดีฝ่ายแผนงานและวิจัย กรรมการ
7) นางสาว วิภา เพ็งเสงี่ยม คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ กรรมการ
8) นางสาวศิริวรรณ ตันย้ง ผู้อำนวยการสำนักอธิการบดี เลขานุการ
คณะกรรมการสภาวิชาการ
1) ดร.ปิยะดา วรรธนะสาร อธิการบดี ประธานกรรมการ
2) ดร.ชัยภัฏ วรรธนะสาร รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ รองประธานกรรมการ
3) ผศ. ดร. วิเชียร พันธ์เครือบุตร รองอธิการบดีฝ่ายแผนงานและวิจัย กรรมการ
4) คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ กรรมการ
5) คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ กรรมการ
6) คณบดีคณะบริหารธุรกิจ กรรมการ
7) คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ กรรมการ
8) คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ กรรมการ
9) ผู้อำนวยการสำนักประกันคุณภาพ กรรมการ
10) ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนงาน กรรมการ
11) ผู้อำนวยการสำนักอธิการบดี กรรมการ
12) ผู้อำนวยการสำนักวิชาการ กรรมการและเลขานุการ
13) เจ้าหน้าที่สำนักวิชาการ ผู้ช่วยเลขานุการ
1.5 หลักสูตรและสาขาที่เปิดสอน
ในปีการศึกษา 2563 วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซา เปิดสอน 5 คณะ 19 หลักสูตร ดังต่อไปนี้
ระดับปริญญาตรี
หลักสูตรวิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซา ระดับปริญญาตรีจำนวน 13 หลักสูตร คือ
1)หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ(หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ.2561)
2)หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาธุรกิจการบิน(หลักสูตรใหม่ พ.ศ.2563)
3)หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์(หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559)
4)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย(หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559)
5)หลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการพยาบาล(หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2561)
6)หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาชาวิชาภาษาอังกฤษ(หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562)
7)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการควบคุมจราจรทางอากาศ(หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560)
8)หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ(หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562)
9)หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสื่อดิจิทัล(หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2563)
10)หลักสูตรศึกษาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562)
11)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการบิน (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2559)
12)หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์ทั่วไป (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562)
13)หลักสูตรบัญชีบัณฑิต สาขาการบัญชี (หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2560)
ระดับบัณฑิตศึกษา
หลักสูตรวิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซา รับบัณฑิตศึกษา จำนวน 6 หลักสูตร คือ
1)หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559)
2)หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา
(หลักสูตรนานาชาติ / หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559)
3)หลักสูตรสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ (หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560)
4)หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาวิชาชีพครู (หลักสูตรภาษาไทย / หลักสูตรปรับปรุง 2561)
5)หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาวิชาชีพครู (หลักสูตรนานาชาติ / หลักสูตรปรับปรุง 2561)
6)หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการจัดการเรียนรู้(หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2563)
1.6 จำนวนนักศึกษา
ในปีการศึกษา 2563 วิทยาลัยมีนักศึกษาในคณะวิชาต่างๆ 5 คณะวิชาคือ คณะบริหารธุรกิจ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ และคณะพยาบาลศาสตร์ แยกเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 1,692 คน นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา จำนวน 418 คน รวมมีนักศึกษาในปีการศึกษา 2563 จำนวน 2,110 คน มีรายละเอียดดังนี้
คณะ |
จำนวนนักศึกษาระดับปริญญาตรี |
จำนวนนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา |
จำนวนนักศึกษารวม |
บริหารธุรกิจ |
835 |
12 |
847 |
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ |
180 |
– |
180 |
ศึกษาศาสตร์ |
181 |
403 |
584 |
สาธารณสุขศาสตร์ |
64 |
3 |
67 |
พยาบาลศาสตร์ |
432 |
– |
432 |
รวม |
1,692 |
418 |
2,110 |
1.7 จำนวนอาจารย์และบุคลากร
ในปีการศึกษา 2563 วิทยาลัยมีอาจารย์ประจำรวมทั้งหมด 157 คน ได้แก่ อาจารย์ของคณะบริหารธุรกิจจำนวน 47 คน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์จำนวน 12 คน คณะศึกษาศาสตร์จำนวน 38 คน คณะสาธารณสุขศาสตร์ 18 คน และคณะพยาบาลศาสตร์จำนวน 42 คน เป็นอาจารย์วุฒิปริญญาเอก 57 คน และมีตำแหน่งทางวิชาการจำนวน 24 คน มีบุคลากรสายสนับสนุนจำนวน 8 คน มีรายละเอียดดังนี้
คณะ |
จำนวนอาจารย์ประจำสถาบันที่มีวุฒิปริญญาเอก |
จำนวนอาจารย์ที่มีตำแหน่งวิชาการ |
จำนวนอาจารย์รวม |
บริหารธุรกิจ |
12 |
0 |
47 |
มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ |
6 |
1 |
12 |
ศึกษาศาสตร์ |
28 |
16 |
38 |
สาธารณสุขศาสตร์ |
6 |
3 |
18 |
พยาบาลศาสตร์ |
5 |
4 |
42 |
รวม |
57 |
24 |
157 |
1.8 ข้อมูลพื้นฐานโดยย่อเกี่ยวกับงบประมาณและอาคารสถานที่
วิทยาลัยมีการจัดอาคารสถานที่และงบประมาณอย่างเพียงพอและเหมาะสม เป็นไปตามเกณฑ์การใช้อาคารสถานที่ที่กำหนด มีการบริหารงานให้เกิดความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ และมีการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ของวิทยาลัย ดังนี้
อาคารเรียนและห้องเรียน
วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซา มีอาคารเรียน ห้องเรียน ห้องปฏิบัติการ ห้องสมุด และห้องอาหาร ที่สามารถจัดการศึกษาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ได้อย่างพอเพียงและเหมาะสม ประกอบด้วย
1) อาคารบริหารและอาคารเรียน จำนวน 1 หลัง
2) อาคารศูนย์การเรียนและห้องประชุม จำนวน 1 หลัง
3) อาคารปฏิบัติการและห้องประชุม จำนวน 1 หลัง
4) อาคารคณะพยาบาลศาสตร์ จำนวน 1 หลัง
5) อาคารห้องสมุด จำนวน 2 หลัง
6) อาคารโรงอาหาร จำนวน 1 หลัง
7) อาคารโรงอาหารและออกกำลังกาย จำนวน 1 หลัง
8) อาคารปฏิบัติการทางการกีฬา จำนวน 2 หลัง
9) อาคารฝึกปฏิบัติการเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์ (Co-Working Space) จำนวน 2 หลัง
10) อาคารหอพักนักศึกษา จำนวน 5 หลัง
11) สนามกีฬา(ฟุตบอล วอลเล่ย์บอล ตระกร้อ บาสเกตบอล สนามไดรกอฟล์ สนามกีฬาทางน้ำ)
12) ลานอเนกประสงค์ สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง และสวนสมุนไพร
งบประมาณ
วิทยาลัยได้จัดสรรงบประมาณ เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
1.งบประมาณส่วนกลาง เป็นงบประมาณในการบริหารงานบุคคล และการบริหารงานอาคารสถานที่
2.งบประมาณส่วนการจัดการเรียนการสอน เป็นงบประมาณของคณะวิชาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
1.9 วัฒนธรรมของสถาบัน (Organizational culture)
วิทยาลัยนานาชาติเซนต์เทเรซา เป็นสถาบันการศึกษาเอกชนที่มุ่งเน้นการพัฒนาบัณฑิตที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคม วิทยาลัยฯ มีวัฒนธรรมองค์กร ดังนี้
S = Sharing and Caring เกื้อกูลและเอื้ออาทร
T = Trustworthy ซื่อสัตย์ ถูกต้อง ตรงเวลา
I = Inter-cultural competency เข้ากันได้กับวัฒนธรรมหลากหลายชาติ
C = Commitment to Quality มุ่งมั่นสู่คุณภาพ
1.10 ข้อเสนอแนะจากการประเมินคุณภาพการศึกษาในรอบปีที่ผ่านมา(ปีการศึกษา 2562)
การประเมินคุณภาพการศึกษาในรอบปีที่ผ่านมา มีผลการประเมินในภาพรวม ที่ระดับดี
วิทยาลัย ได้นำ จุดที่ควรพัฒนาและข้อเสนอแนะจากการประเมินระดับสถาบัน ในปีการศึกษา 2562 มาดำเนินการปรับปรุง ผลการดำเนินตามข้อเสนอแนะจากการประเมิน สรุปในภาพรวม และรายองค์ประกอบได้ ดังนี้
ภาพรวม
จุดแข็ง
- มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วิทยาลัยฯ ได้พัฒนาเกณฑ์การประเมินคุณภาพการศึกษาภายในใหม่ที่สามารถใช้วัดและประเมินผลการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิผล
- วิทยาลัยฯ ได้ดำเนินการโครงการบริการวิชาการ “เยาวชนคนสร้างชาติ” โดยมูลนิธิคืนคุณแผ่นดิน ได้อย่างยอดเยี่ยมจนได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับชาติ
- มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย ที่ส่งเสริมศักยภาพและคุณภาพของนักศึกษา และเป็นประโยชน์โดยตรงต่อชุมชน
จุดที่ควรพัฒนา และข้อเสนอแนะในภาพรวม
- ควรมีแผนการพัฒนาหลักสูตรที่มีผลการประเมินที่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก
- ควรแสวงหาทุนวิจัยจากแหล่งทุนภายนอกให้มากขึ้น
3. ควรมีการจัดโครงการบริการวิชาการเพื่อหารายได้ให้มากขึ้น
- ควรมีการวางแผนการบริหารความเสี่ยงเรื่องจำนวนการรับนักศึกษาใหม่ในอนาคตที่อาจมีแนวโน้มลดลง ตามสภาพการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านประชากรของสังคม และการแข่งขันระหว่างสถาบัน
การดำเนินการตามจุดที่ควรพัฒนาและข้อเสนอแนะในภาพรวม
จุดที่ควรพัฒนา |
การดำเนินการ |
ผู้รับผิดชอบ |
1. ควรมีแผนการพัฒนาหลักสูตรที่มีผลการประเมินที่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก |
ทำการทบทวนความเข้าใจในการดำเนินการบริหารจัดการหลักสูตร ตามระบบการประกันคุณภาพ ให้กับหลักสูตรที่มีผลการประเมินยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ตลอดจนมีการนิเทศ และให้คำปรึกษาอย่างสม่ำเสมอ |
คณะกรรมการประกันคุณภาพการศึกษา |
2. ควรแสวงหาทุนวิจัยจากแหล่งทุนภายนอกให้มากขึ้น |
จัดคณะทำงานฯ จัดทำข้อเสนอการวิจัยที่เป็นไปตามกรอบการวิจัยจากแหล่งทุนภายนอก เช่น สมศ. ทุนจากคุรุสภา ทุนเครือข่ายวิจัยภาคตะวันออก |
สำนักวิจัยฯ |
3. ควรมีการจัดโครงการบริการวิชาการเพื่อหารายได้ให้มากขึ้น |
จัดคณะทำงานฯ จัดทำข้อเสนอโครงการบริการวิชาการที่ก่อให้เกิดรายได้ เช่นคณะศึกษาศาสตร์ พัฒนาหลักสูตร ผู้ดูแลเด็ก และคณะพยาบาลศาสตร์ พัฒนา หลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ |
คณะกรรมการบริการวิชาการ และ คณะวิชา |
4. ควรมีการวางแผนการบริหารความเสี่ยงเรื่องจำนวนการรับนักศึกษาใหม่ในอนาคตที่อาจมีแนวโน้มลดลง ตามสภาพการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านประชากรของสังคม และการแข่งขันระหว่างสถาบัน |
ดำเนินการ เป็น 2 ลักษณะ คือ 1) ปรับรูปแบบการแนะแนวนักเรียนตามกลุ่มผู้สนใจ 2) คณะวิชาพัฒนาหลักสูตร re-skill, up-skill, new skill และ หลักสูตรบริการวิชาการ แบบมีรายได้ |
งานแนะแนว คณะวิชา |
จุดที่ควรพัฒนา และข้อเสนอแนะในแต่ละมาตรฐาน
มีการดำเนินการ ดังนี้
มาตรฐานที่ 1 การผลิตบัณฑิต
จุดที่ควรพัฒนา
จุดที่ควรพัฒนา |
การดำเนินการ |
ผู้รับผิดชอบ |
1. ควรส่งเสริมให้อาจารย์ได้ขอตำแหน่งทางวิชาการเพิ่มมากขึ้นและธำรงรักษาให้อาจารย์อยู่ในสถาบัน |
สัมมนาการทำผลงานวิจัยเพื่อให้มีคุณภาพสูง และจัดคลีนิคการวิจัยเพื่อให้คำปรึกษา |
คณะกรรมการวิจัย |
ข้อเสนอแนะ
ไม่มี
มาตรฐานที่ 2 การวิจัย
จุดที่ควรพัฒนา
จุดที่ควรพัฒนา |
การดำเนินการ |
ผู้รับผิดชอบ |
1. ควรแสวงหาทุนวิจัยจากแหล่งทุนภายนอกให้มากขึ้น
|
จัดคณะทำงานฯ จัดทำข้อเสนอการวิจัยที่เป็นไปตามกรอบการวิจัยจากแหล่งทุนภายนอก เช่น สมศ. ทุนจากคุรุสภา ทุนเครือข่ายวิจัยภาคตะวันออก ePLC และ U school เป็นต้น |
สำนักวิจัยฯ |
2. ควรมุ่งเน้นการนำองค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่สถาบัน สังคมและชุมชนมากยิ่งขึ้น |
ร่วมมือกับเครือข่ายการบริการวิชาการ และเครือข่ายศิลปวัฒนธรม นำองค์ความรู้ที่ได้จากการบูรณาการ การวิจัย การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม สร้างประโยชน์ให้กับสังคม เช่น การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การพัฒนาคุณธรรมในสถานศึกษา เป็นต้น |
สำนักวิจัยฯ |
ข้อเสนอแนะ
ไม่มี
มาตรฐานที่ 3 การบริการวิชาการ
จุดที่ควรพัฒนา
จุดที่ควรพัฒนา |
การดำเนินการ |
ผู้รับผิดชอบ |
1.ควรมีการจัดโครงการบริการวิชาการเพื่อหารายได้ให้มากขึ้น |
จัดคณะทำงานฯ จัดทำข้อเสนอโครงการบริการวิชาการที่ก่อให้เกิดรายได้ เช่นคณะศึกษาศาสตร์ พัฒนาหลักสูตร ผู้ดูแลเด็ก และคณะพยาบาลศาสตร์ พัฒนา หลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุ |
คณะกรรมการบริการวิชาการ และ คณะวิชา |
2. ควรนำผลจากการให้บริการวิชาการมาบูรณาการเข้ากับการเรียนการสอน และ/หรือการวิจัยให้มากขึ้น |
คณะวิชาฯ ได้ดำเนินการบูรณาการ การจัดการเรียนการสอน การวิจัย การบริการวิชาการ และนำองค์ความรู้ที่ได้รับมาใช้ในการจัดการเรียนการสอน เช่น คณะบริหารธุรกิจ ใช้ในเนื้อหาการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม คณะศึกษาศาสตร์ พัฒนา ePLC และ PLC เป็นต้น |
คณะกรรมการบริการวิชาการและคณะวิชา |
ข้อเสนอแนะ
ไม่มี
มาตรฐานที่ 4 การทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม
จุดที่ควรพัฒนา
ไม่มี
ข้อเสนอแนะ
ไม่มี
มาตรฐานที่ 5 การบริหารจัดการ
จุดที่ควรพัฒนา
ไม่มี
ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะ |
การดำเนินการ |
ผู้รับผิดชอบ |
1. ควรมีการวางแผนการบริหารความเสี่ยงเรื่องจำนวนการรับนักศึกษาใหม่ในอนาคตที่อาจมีแนวโน้มลดลง ตามสภาพการณ์การเปลี่ยนแปลงด้านประชากรของสังคม และการแข่งขันระหว่างสถาบัน |
ดำเนินการ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว คือ 1) ระยะสั้น ทำการปรับรูปแบบการแนะแนวนักเรียนตามกลุ่มผู้สนใจ ที่ให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลเป็นรายบุคล สามารถสมัคร และรายงานตัว ผ่านระบบฐานข้อมูลของวิทยาลัยได้โดยตรง 2) ระยะยาว คณะวิชาได้พัฒนาหลักสูตร re-skill, up-skill, new skill และ หลักสูตรบริการวิชาการ แบบมีรายได้ และบางหลักสูตรสามารถเปิดสอนได้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 |
งานแนะแนว คณะวิชา |