Component 4 Knowledge Management
ตัวบ่งชี้ที่ 4.2 การเรียนรู้ (การจัดการสารสนเทศและการเรียนรู้) : Learning (Information and Knowledge Management)
พิจารณาตามมาตรฐาน สป. อว. (IQA)
1 คะแนน | 2 คะแนน | 3 คะแนน | 4 คะแนน | 5 คะแนน |
1 ข้อ | 2 ข้อ | 3-4 ข้อ | 5-6 ข้อ | 7 ข้อ |
พิจารณาตามมาตรฐาน EdPEx ประเมินภาพรวมประเด็น 1-5 ประเมิน 45 คะแนน ประเมินแบบ ADLI
ผลการดำเนินการ
1 ข้อมูลและสารสนเทศ (คุณภาพ) สถาบันมีวิธีการอย่างไรในการทวนสอบและทำให้มั่นใจว่าข้อมูลและสารสนเทศที่ใช้ในสถาบันมีคุณภาพ
การดำเนินการ
แนวทาง: คณะวิชา โดยอาจารย์และผู้เกี่ยวข้องทำการบันทึกข้อมูลในระบบสารสนเทศของวิทยาลัย(AIS/MIS) ให้เป็นปัจจุบัน และมีการกำหนดผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบการบันทึกก่อนเผยแพร่ และทวนสอบข้อมูลในระบบทุกภาคเรียน
การถ่ายทอดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ: อาจารย์ผู้สอน อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร และผู้เกี่ยวข้องทำการบันทึกข้อมูลในระบบสารสนเทศของวิทยาลัย(AIS/MIS) ให้เป็นปัจจุบัน โดยมีประธานหลักสูตร เป็นผู้ตรวจสอบการบันทึกก่อนเผยแพร่ และคณบดี/ผู้ได้รับมอบหมายทำการทวนสอบข้อมูลในระบบทุกภาคเรียน
การเรียนรู้: เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลและสารสนเทศที่ใช้ในวิทยาลัย ถูกต้อง ทันสมัย มีคุณภาพ จึงได้มีการกำหนดระยะเวลาในการ บันทึก ตรวจสอบ และทวนสอบ ข้อมูลและสารสนเทศที่กำหนด ตัวอย่าง ข้อมูลและสารสนเทศที่ต้องดำเนินการทวนสอบให้มีคุณภาพ ดังแสดงในตารางที่ 4.2-1-01
ตารางที่ 4.2-1-01 ตัวอย่าง ข้อมูล/สารสนเทศที่ต้องดำเนินการบันทึก ตรวจสอบ และทวนสอบ
ข้อมูล/สารสนเทศ |
ระยะเวลาในการบันทึก |
ระยะเวลาในการตรวจสอบ |
ระยะเวลาในการทวนสอบ |
TQF3, TQF4 |
ก่อนเปิดเรียน อย่างน้อย 7 วัน |
ก่อนเปิดเรียนอย่างน้อย 3 วัน |
ก่อนสอบกลางภาค |
TQF5, TQF6 |
หลังสิ้นสุดภาคเรียนไม่เกิน 7 วัน |
หลังสิ้นสุดภาคเรียนไม่เกิน 10 วัน |
ก่อนเปิดภาคเรียนใหม่ |
ข้อมูลผู้เรียน |
ก่อนเปิดเรียน อย่างน้อย 10 วัน |
ก่อนเปิดเรียนอย่างน้อย 3 วัน |
เดือน กุมภาพันธ์ และ กันยายน |
ข้อมูลอาจารย์ |
ก่อนเปิดเรียน อย่างน้อย 10 วัน |
ก่อนเปิดเรียนอย่างน้อย 3 วัน |
เดือน กรกฎาคม |
การบูรณาการ: วิทยาลัย บูรณาการเรื่อง การทวนสอบข้อมูลและสารสนเทศ กับเกณฑ์การดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐาน/ ข้อบังคับ/ประกาศ ที่ สป. อว. กำหนด นั่นคือ วิทยาลัยพร้อมที่จะรายงานข้อมูลต่อต้นสังกัดได้ทันที
2 ข้อมูลและสารสนเทศ (ความพร้อมใช้) สถาบันทำให้มั่นใจอย่างไร ว่าข้อมูลและสารสนเทศของสถาบันมีความพร้อมใช้
การดำเนินการ
แนวทาง: วิทยาลัย มอบหมายให้ งานเทคโนโลยีสารสนเทศ ดำเนินจัดทำระบบฐานข้อมูลการบริหารงาน(AIS/MIS) เพื่อให้ คณะวิชาและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง สามารถบันทึก ปรับเปลี่ยน/แก้ไขข้อมูลและสารสนเทศ ได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกในการใช้งานเพื่อการตัดสินใจได้ตลอดเวลา
การถ่ายทอดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ: สำนักวิชาการ ทำหน้าที่ ติดตาม ตรวจสอบ การใช้งานข้อมูลและสารสนเทศ จากระบบฐานข้อมูลการบริหารงาน(AIS/MIS) และรายงานผลความพร้อมใช้ข้อมูลและสารสนเทศ จากฐานข้อมูลการบริหารงาน(AIS/MIS) ต่อคณะกรรมการผู้บริหารเป็นประจำทุกเดือน
การเรียนรู้: ระบบฐานข้อมูลการบริหารงาน(AIS/MIS) ที่มีประสิทธิภาพเกิดจาก ผู้ใช้ส่งมอบรายละเอียดของการบันทึกและการใช้สารสนเทศ ในเบื้องต้นและเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงให้กับ IT อย่างครบถ้วน เมื่อ IT ออกแบบ/ปรับปรุงระบบฐานข้อมูล จึงจะให้ผู้บันทึก และผู้ตรวจสอบข้อมูลทำงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่ยุ่งยากข้อมูลมีคุณภาพ และเป็นปัจจุบัน ตลอดจนผู้ใช้งาน สามารถใช้สารสนเทศได้อย่างถูกต้อง และเมื่อมีความต้องการเพิ่มหรือปรับปรุง สารสนเทศ ก็แจ้งให้ IT ดำเนินการปรับปรุง ทั้งนี้ สำนักวิชาการ จะทำหน้าที่เป็นผู้ติดตาม ตรวจสอบการใช้ และรายงานต่อคณะกรรมการผู้บริหารเป็นประจำทุกเดือน ผลการรายงาน อาจให้ข้อเสนอกับผู้บันทึก ผู้ตรวจสอบ หรือผู้ใช้ ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจว่า ข้อมูลและสารสนเทศมีความพร้อมใช้งานตลอดเวลา ดัง ภาพที่ 4.2-2-01
การบูรณาการ: วิทยาลัย บูรณาการเรื่อง ความพร้อมใช้ข้อมูลและสารสนเทศของวิทยาลัย กับเกณฑ์การดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐาน/ ข้อบังคับ/ประกาศ ที่ สป. อว. กำหนด นั่นคือ วิทยาลัยพร้อมที่จะรายงานข้อมูลต่อต้นสังกัดได้ทันที
3 ความรู้ของสถาบัน (การจัดการความรู้) สถาบันมีวิธีการอย่างไรในการสร้างและจัดการความรู้ของสถาบัน
การดำเนินการ
แนวทาง: วิทยาลัยใช้กระบวนการจัดการความรู้ 7 ขั้นตอน ในการสร้างและจัดการความรู้
การถ่ายทอดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ: คณะกรรมการจัดการความรู้ที่ประกอบด้วยตัวแทนของทุกคณะวิชา รับผิดชอบดำเนินการขับเคลื่อน กระบวนการจัดการความรู้ 7 ขั้นตอน ในการสร้างและจัดการความรู้ ที่ประกอบด้วย การบ่งชี้ความรู้(Knowledge Identification) การสร้างและแสวงหาความรู้(Knowledge Creation and Acquisition) การจัดความรู้ให้เป็นระบบ(Knowledge Organization) การประมวลและกลั่นกรองความรู้(Knowledge Godification and Refinement) การเข้าถึงความรู้(Knowledge Access) การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้(Knowledge Sharing) การเรียนรู้(Learning) และเมื่อดำเนินการเรียนรู้ จะเข้าสู่ขั้นตอนการบ่งชี้ความรู้ใหม่ สร้างองค์ความรู้ใหม่ไม่สิ้นสุด ดังภาพที่ 4.2-3-01
การเรียนรู้: การนำกระบวนการจัดการความรู้ 7 ขั้นตอน ไปใช้ในการสร้างและจัดการความรู้ คณะกรรมการได้กำหนดผลลัพธ์ของแต่ละกระบวนการ รายละเอียด ดังตารางที่ 4.2-3-01
ตารางที่ 4.2-3-01 ผลลัพธ์ของแต่ละกระบวนการในการจัดการความรู้
ขั้นตอน |
ประเด็นในการดำเนินการ |
ผลลัพธ์ |
การบ่งชี้ความรู้ |
เรื่องที่เราต้องมีความรู้ เรารู้แล้วหรือยัง |
วิเคราะห์ผลการนำข้อมูลและสารสนเทศไปใช้งาน |
การสร้างและแสวงหาความรู้ |
ความรู้อยู่ที่ใคร ในรูปแบบใด จะจัดเก็บได้อย่างไร |
ค้นหาผู้รู้ นำความรู้ที่ได้ไปทดลองใช้ ได้องค์ความรู้ |
การจัดความรู้ให้เป็นระบบ |
เราจะแบ่งประเภท/หัวข้อความรู้อย่างไร |
วางโครงสร้างความรู้ เพื่อการใช้งานในอนาคต |
การประมวล/กลั่นกรองความรู้ |
เราทำให้ความรู้ที่ได้เข้าใจง่ายและสมบูรณ์อย่างไร |
เก็บความรู้ใหม่ รักษาความรู้เก่า กำจัดความรู้ล้าสมัย |
การเข้าถึงความรู้ |
ความรู้ที่จัดเก็บได้ เราใช้งานจริงได้สะดวกเพียงใด |
จัดเก็บเป็นเอกสาร ฐานความรู้ คู่มือ แนวปฏิบัติ |
การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ |
เราแบ่งปันความรู้ที่จัดเก็บได้ให้แก่กันอย่างไร |
เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ KM-Day ตีพิมพ์ในวารสาร |
การเรียนรู้ |
เรานำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับองค์กรให้ดีขึ้น |
ชุมชนแห่งการเรียนรู้ กิจกรรมกลุ่ม การนำไปใช้ |
การบูรณาการ: วิทยาลัยบูรณาการการจัดการความรู้เข้ากับทุกพันธกิจของวิทยาลัย โดยเมื่อคณะวิชานำองค์ความรู้ที่มีอยู่เดิม ไปใช้ในการแก้ปัญหา จากข้อมูลและสารสนเทศที่ได้รับมาใหม่ ไม่ได้ จะเกิดการแสวงหาความรู้จากผู้รู้ สร้างองค์ความรู้ใหม่ และเมื่อนำไปใช้แก้ปัญหาได้สำเร็จ นำไปจัดเก็บให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย จากนั้นนำมาแบ่งปัน และเรียนรู้ร่วมกัน ตั้งแต่พันธกิจ การผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริการวิชาการ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม และการบริหาร
4 ความรู้ของสถาบัน (วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ) สถาบันมีวิธีการอย่างไรในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศในสถาบัน
การดำเนินการ
แนวทาง: วิทยาลัยกำหนดให้มีการใช้ความรู้/องค์ความรู้ที่จัดเก็บ โดยให้แต่ละคณะวิชามีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่ได้จากการจัดการความรู้เป็นประจำทุกภาคเรียน
การถ่ายทอดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ: คณะกรรมการจัดการความรู้จะนำเอาองค์ความรู้ที่ได้ ทั้งองค์ความรู้จาก การจัดการเรียนรู้ การวิจัย การบริการวิชาการ ศิลปวัฒนธรรม และการบริหารงาน ไปสร้างให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งภายใน และภายนอกวิทยาลัย การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายใน เช่น การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในโอกาสต่างๆ การจัดงาน KM-Day อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง เป็นต้น สำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายนอก เช่น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการประชุมวิชาการ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระหว่างเครือข่ายเช่น เครือข่าย IQAN เครือข่ายอุดมศึกษาภาคตะวันออก ตลอดจนการเผยแพร่ในวารสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นต้น
เมื่อมีองค์ความรู้ใหม่ที่เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หรือการนำเอาองค์ความรู้เดิมไปต่อยอดในบริบทของคณะวิชาที่แตกต่างกัน บริบทที่สถานการณ์แตกต่างกัน หรือในสถาบันอุดมศึกษาอื่น คณะกรรมการจัดการความรู้ จะพิจารณาผลกระทบจากการนำไปใช้ เพื่อจัดเป็น แนวปฏิบัติที่ดี และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ ต่อไป
การเรียนรู้: การนำวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในวิทยาลัย ทั้งการจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในโอกาสต่างๆ การจัดงาน KM-Day พบว่าเกิดการพัฒนาองค์ความรู้ในบริบทของคณะวิชา หรือสาขาวิชา ที่แตกต่างกัน หรือนำไปใช้ในการพัฒนาวิทยาลัยในภาพรวม สำหรับการนำวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายนอกวิทยาลัย พบว่า เป็นการนำเอาองค์ความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ หรือสร้างผลประโยชน์ สร้างความผาสุก สร้างคุณค่า ให้กับชุมชน สังคม เกิดองค์ความรู้ใหม่ในบริบทของชุมชน/สังคม ที่วิทยาลัยสามารถนำกลับมาใช้ในการพัฒนาวิทยาลัยในภาพรวมด้วยเช่นกัน
การบูรณาการ: วิทยาลัย บูรณาการเรื่องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ กับเรื่องการบริหารงานด้วยเครือข่าย นั่นคือ ส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศของวิทยาลัย กับเครือข่ายต่างๆ ในพันธกิจด้านการจัดการศึกษา การวิจัย การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ดังภาพที่ 1.2-5-01
5 ความรู้ของสถาบัน (การเรียนรู้ระดับสถาบัน) สถาบันใช้ความรู้และทรัพยากรอย่างไร เพื่อให้การเรียนรู้ฝังลึกเข้าไปในวิธีการปฏิบัติงานของสถาบัน
การดำเนินการ
แนวทาง: วิทยาลัยกำหนดให้คณะวิชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีการกำหนดระบบงาน/ระบบปฏิบัติการ/ วิธีการทำงาน/ขั้นตอนการทำงาน ต่างๆ ให้เป็นไปตามหลักการ/ทฤษฎี องค์ความรู้ และเหมาะสมกับทรัพยากรของวิทยาลัย ทั้งนี้ต้องมีการปรับปรุงระบบงาน เมื่อองค์ความรู้และทรัพยากรมีการเปลี่ยนแปลง
การถ่ายทอดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ: คณะวิชา มีหน้าที่ในการเห็นชอบการกำหนด/ปรับปรุงระบบงาน ที่เป็นไปตามหลักการ/ทฤษฎี องค์ความรู้ และเหมาะสมกับทรัพยากรของวิทยาลัย เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไป อย่างมีคุณภาพ ทั้งนี้ ระบบงานในแต่ละสาขาวิชา ในคณะ อาจแตกต่างกันได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละสาขาวิชา ตลอดจนระบบงานในแต่ละคณะอาจแตกต่างกันได้ ยกเว้นระบบงานที่เกี่ยวข้องกับหลายคณะ ต้องมีการนำเสนอผ่านคณะกรรมการผู้บริหารให้ความเห็นชอบ
การเรียนรู้: การกำหนดระบบงานที่เกี่ยวข้องกับหลายคณะ ที่เกี่ยวข้องกับคณะทำงาน หรือคณะกรรมการที่มีการระบุหน้าที่ชัดเจน ให้คณะทำงานหรือ คณะกรรมการนั้น เป็นผู้กำหนดระบบงาน ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามหลักการ/ทฤษฎี องค์ความรู้ และเหมาะสมกับทรัพยากรของวิทยาลัย ตัวอย่างระบบงานที่กำหนดโดยคณะทำงาน หรือคณะกรรมการ ดัง ตารางที่ 4.2-5-01
ตารางที่ 4.2-5-01 ตัวอย่างระบบงานที่กำหนดโดยคณะทำงาน หรือคณะกรรมการ
คณะทำงาน/คณะกรรมการ |
ระบบงาน/กระบวนการ |
||
วิชาการ |
พัฒนาหลักสูตร |
ปรับปรุงหลักสูตร |
เปลี่ยนผู้รับผิดชอบหลักสูตร |
วิจัยและนวัตกรรม |
การขอรับทุนวิจัย |
การขอรับทุนตีพิมพ์ |
การขอจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ |
บริการวิชาการ |
การให้บริการเมื่อชุมชนร้องขอ |
การบริการวิชาการแบบมีรายได้ |
ประเมินผลการให้บริการวิชาการ |
กิจการนักศึกษา |
การขอรับทุนการศึกษา |
การจัดตั้งชมรมของนักศึกษา |
ประเมินผลการจัดกิจกรรม |
บริหารงานบุคคล |
การเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ |
การสร้างขวัญและกำลังใจ |
ทุนการศึกษาระดับปริญญาเอก |
การบูรณาการ: วิทยาลัย บูรณาการเรื่อง การกำหนด/ปรับปรุงระบบงาน ที่เป็นไปตามหลักการ/ทฤษฎี องค์ความรู้ และเหมาะสมกับทรัพยากรของวิทยาลัย กับเกณฑ์การดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐาน/ ข้อบังคับ/ประกาศ ที่ สป. อว. กำหนด นั่นคือ วิทยาลัยพร้อมที่จะรายงานข้อมูลต่อต้นสังกัดได้ทันที
6 มีการทบทวนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิผล
การดำเนินการ
วิทยาลัยมีการทบทวนการดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ทำให้มีผลการดำเนินการที่มีประสิทธิผล เช่น
ความต้องการพยาบาลในตลาดแรงงานเพิ่มสูงขึ้น มีการทบทวนการพัฒนาหลักสูตรพยาบาลศาสตร์ ให้ออกแบบหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐาน AUN-QA และการทบทวนระบบปฏิบัติการต่างๆ ของคณะ ทำให้หลักสูตร/คณะพยาบาลศาสตร์ได้รับการรับรองจากสภาการพยาบาล เป็นระยะเวลา 5 ปี และมีผลให้ สภาการพยาบาล อนุญาตขยายการรับนักศึกษาจาก 120 คน เป็น 200 คน
7 มีการทบทวนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับผู้เรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างต่อเนื่อง
การดำเนินการ
วิทยาลัย มีการนำข้อมูลและสารสนเทศของผู้เรียน เช่น คะแนนเฉลี่ยของผลลัพธ์การเรียนรู้ตามTQF คะแนนเฉลี่ยของผลลัพธ์ผู้เรียน สมรรถนะด้านภาษาอังกฤษ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ผลการประเมินการสอนของอาจารย์ ตลอดจน มีการนำข้อมูลและสารสนเทศของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตตาม TQF ความพึงพอใจของพี่เลี้ยงการฝึกงาน ความพึงพอใจในการใช้บริการวิชาการ เป็นต้น มาใช้ในการทบทวนเนื้อหารายวิชา ทบทวนการพัฒนาหลักสูตร และ/หรือทบทวนกระบวนการให้บริการ เป็นประจำทุกปี
การประเมินตนเอง
เป้าหมาย |
การดำเนินการ(KPIเชิงคุณภาพให้ระบุข้อ) |
การประเมินตนเอง |
||
5 ข้อ |
IQA (1-7) |
1,2,3,4,5,6,7 |
7 ข้อ |
5 คะแนน |
EdPEx (1-5) |
1,2,3,4,5 |
ร้อยละ 30 (จาก45 คะแนน) |
13.50 คะแนน |
รายการหลักฐาน
ผลการประเมินตนเอง
ผลการประเมินตนเอง | IQA | EdPEx |
ตัวบ่งชี้ที่ 4.1 | 5 | 13.50 |
ตัวบ่งชี้ที่ 4.2 | 5 | 13.50 |
คะแนนเฉลี่ย(IQA)/คะแนนรวม(EdPEx) | 5 | 27 |