Component 6 Operations
ตัวบ่งชี้ที่ 6.2 ประสิทธิผล(ประสิทธิผลของการปฏิบัติงาน): Effectiveness (Operational Effectiveness)
พิจารณาตามมาตรฐาน สป. อว. (IQA)
1 คะแนน | 2 คะแนน | 3 คะแนน | 4 คะแนน | 5 คะแนน |
1 ข้อ | 2 ข้อ | 3 ข้อ | 4-5 ข้อ | 6 ข้อ |
พิจารณาตามมาตรฐาน EdPEx ประเมินภาพรวมประเด็น 1-4 ประเมิน 40 คะแนน ประเมินแบบ ADLI
ผลการดำเนินการ
1 ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกระบวนการ สถาบันมีการจัดการต้นทุน ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของการปฏิบัติการอย่างไร
การดำเนินการ
แนวทาง: วิทยาลัยควบคุมต้นทุนโดยรวมของระบบปฏิบัติการต่างๆ ผ่านการบริหารงบประมาณตามแผนปฏิบัติการประจำปี สำหรับการควบคุมประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการปฏิบัติการ ผ่านการติดตามผลการดำเนินการตามตัวชี้วัดของแต่ละโครงการและกิจกรรม
การถ่ายทอดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ: งานนโยบายและแผน รับผิดชอบตรวจสอบการใช้งบประมาณ ตามโครงการและกิจกรรม ของคณะ/หน่วยงานต่างๆ ให้เป็นไปตามกรอบวงเงินที่ได้รับอนุมัติในแผนปฏิบัติการประจำปี ตรวจสอบการบรรลุตามตัวชี้วัดความสำเร็จจากรายงานผลการปฏิบัติงานตามโครงการ/กิจกรรมต่างๆ ทุกระยะ 3 เดือน แล้วรายงานต่อคณะกรรมการผู้บริหารทุกระยะ 6 เดือน เพื่อ ทบทวน หรือ ปรับปรุง การใช้ทรัพยากรร่วมกัน ที่ช่วยลดต้นทุน มีประสิทธิภาพ หรือ ลดข้อผิดพลาด ลดระยะเวลาในการดำเนินการ ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ทั้งนักศึกษา ผู้ปฏิบัติการ อาจารย์ และผู้ใช้บริการ
การเรียนรู้: การใช้ทรัพยากรร่วมกันที่สำคัญ คือการใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างสาขาวิชา ในคณะเดียวกัน เช่น โครงการศึกษาดูงานในสถานประกอบการ ของสาขาวิชาการควบคุมการจราจรทางอากาศ และสาขาวิชาการบิน หรือการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ของระหว่างคณะวิชา เช่น การพัฒนาสมรรถนะอาจารย์ด้านการวัดและประเมินผล ของคณะศึกษาศาสตร์ คณะมนุษย์ศาสตร์ฯ ทำให้ต้นทุนโดยรวมลดลง โดยความสำเร็จตามตัวชี้วัดประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ไม่แตกต่างไปจากเดิม
การบูรณาการ: การควบคุมต้นทุนโดยรวมของระบบปฏิบัติการต่างๆ ผ่านการบริหารงบประมาณตามแผนปฏิบัติการประจำปี โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การใช้ Google drive สามารถลดการใช้กระดาษในการถ่ายเอกสารประกอบการประชุม หรือการใช้ Drive shared ในการส่งหนังสือภายใน หรือสำเนาหนังสือส่ง สำเนาหนังสือสั่งการ หรือการใช้ Google form สำหรับการประเมินผลต่างๆ ทำให้ลดต้นทุนด้านธุรการได้ โดยกระบวนการทำงานต่างๆ ยังคงมี ประสิทธิภาพ และประสิทธิผล ตามตัวชี้วัดที่กำหนด
2 ความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ สถาบันมีวิธีการอย่างไรเพื่อทำมั่นใจว่าข้อมูลและสารสนเทศที่อ่อนไหวหรือเป็นสิทธิพิเศษ (Privilege) และสินทรัพย์ที่สำคัญของสถาบัน มีความปลอดภัย
การดำเนินการ
แนวทาง: วิทยาลัย กำหนดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ข้อมูลและสารสนเทศที่อ่อนไหวหรือเป็นสิทธิพิเศษ(Privilege) ภายใต้ พรบ. การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และการรักษาความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศฯ และ ความปลอดภัยของสินทรัพย์ที่สำคัญของวิทยาลัย ตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
การถ่ายทอดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ: คณะกรรมการความเสี่ยงของวิทยาลัย และงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ร่วมกันวิเคราะห์ความเสี่ยง จัดทำแผนบริหารความเสี่ยง และดำเนินการลดความเสี่ยง ทั้ง การรักษาความปลอดภัย ข้อมูลและสารสนเทศที่อ่อนไหวหรือเป็นสิทธิพิเศษ(Privilege) และ การรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ที่สำคัญ โดยรายงานผลการดำเนินการต่อคณะกรรมการผู้บริหาร อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง หรือ ทันทีที่พบเหตุการณ์ผิดปกติที่มีผลต่อความปลอดภัย
การเรียนรู้: การจัดการความเสี่ยงในการรักษาความปลอดภัย มีดังนี้
การรักษาความปลอดภัย ข้อมูลและสารสนเทศที่อ่อนไหวหรือเป็นสิทธิพิเศษ(Privilege) มีการใช้มาตรการที่สำคัญ ประกอบด้วย 1)ใช้โปรแกรมป้องกันการเข้าถึงข้อมูล 2) ตรวจสอบความผิดปกติในระบบทุกวัน 3)สำรองข้อมูลทุกระยะ 1 สัปดาห์ 4)สำรองข้อมูลทุกวัน
การรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ที่สำคัญ มีการใช้มาตรการที่สำคัญ ประกอบด้วย 1)มีหน่วยรักษาความปลอดภัยคัดกรองบุคคลเข้าในอาคารที่สำคัญตลอด 24 ชั่วโมง 2)ติดตั้งกล้องวงจรปิด ทุกจุดที่มีสินทรัพย์สำคัญ และเส้นทางที่สำคัญ 3)จัดลำดับการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ที่สำคัญเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน 4)จัดจุดรวมพลกรณีมีเหตุการณ์อัคคีภัย 5)จัดอบรมความปลอดภัยด้านอัคคีภัยภายในอาคาร และการซ้อมอพยพหนีไฟ การเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ที่สำคัญ 6)จัดให้มีการตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ดับเพลิง 7)จัดให้มีการตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ 8)จัดให้มีทางหนีไฟในทุกอาคาร และการตรวจสอบเส้นทางหนีไฟอย่างสม่ำเสมอ
การบูรณาการ: วิทยาลัยมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย ข้อมูลและสารสนเทศที่อ่อนไหว ครอบคลุม ทั้งสารสนเทศงานวิชาการ การจัดการเรียนรู้ออนไลน์ รวมถึงงานสนับสนุนต่างๆ เช่น ข้อมูลงานทะเบียนนักศึกษา ข้อมูลการสำเร็จการศึกษา ฐานข้อมูลห้องสมุดดิจิทัล วารสารออนไลน์ของวิทยาลัย (SJHS) เป็นต้น
3 การเตรียมพร้อมด้านความปลอดภัยและภาวะฉุกเฉิน (ความปลอดภัย) สถาบันดูแลให้มีสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติการที่ปลอดภัยได้อย่างไร
การดำเนินการ
แนวทาง: วิทยาลัย กำหนดให้ใช้กระบวนการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ดูแลให้สภาพแวดล้อมในการปฏิบัติการของวิทยาลัย มีความปลอดภัย
การถ่ายทอดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ: คณะกรรมการจัดการความเสี่ยง คณะ และ งานอาคารสถานที่ ร่วมกันดำเนินการ ตามกระบวนการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ที่ประกอบด้วย 1)รวบรวม/ทบทวน สิ่งคุกคามและความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และค้นหาความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติการของวิทยาลัย 2)จัดทำวัตถุประสงค์การเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัย 3)จัดทำแผนป้องกันด้านความปลอดภัยและมาตรการแก้ไขหากเกิดเหตุการณ์ 4)สื่อสาร ประชาสัมพันธ์กับนักศึกษาและบุคลากร และชี้แจงกับผู้ปฏิบัติหน้าที่ 5)ดำเนินการตามแผนเมื่อเกิดเหตุการณ์ และ/หรือ ซักซ้อมตามกระบวนการทำงาน 6)กำกับ ติดตาม ตรวจเยี่ยม สำรวจความปลอดภัย วิเคราะห์ผลการดำเนินการ และรายงานผล เสนอต่อคณะกรรมการผู้บริหารอย่างน้อยภาคเรียนละ 1 ครั้ง
การเรียนรู้: วิทยาลัยมีการดูแลสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติการของวิทยาลัย ให้มีความปลอดภัย ทั้งการปรับสภาพแวดล้อม การจัดบุคลากร และการใช้อุปกรณ์ มีรายละเอียด ดังตารางที่ 6.2-3-01
ตารางที่ 6.2-3-01 การดูแลสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติการของวิทยาลัย ให้มีความปลอดภัย
สภาพแวดล้อม |
สิ่งคุกคาม |
วัตถุประสงค์ |
การดำเนินการ |
การใช้ถนน |
การข้ามถนนก่อนเข้าวิทยาลัย |
ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขณะข้ามถนน |
จัด รปภ. อำนวยความสะดวกขณะข้ามถนน |
ถนนตัดผ่านพื้นที่ของวิทยาลัย |
ป้องกันอุบัติเหตุกับรถจักรยานยนต์ |
-จัดทำ ลูกคลื่นบนถนน ก่อนถึงจุดตัดผ่าน -จัด รปภ. ให้สัญญาณ ในช่วงเวลาเร่งด่วน |
|
ลดความสูญเสียจากการขับขี่ รถจักรยานยนต์ |
-รณรงค์ ให้นักศึกษา คณาจารย์สวมใส่หมวกนิรภัย -รณรงค์ ให้ขับขี่ด้วยความเร็วต่ำในพื้นที่จุดตัดผ่าน |
||
ห้องปฏิบัติการ |
การใช้สารเคมี/วัตถุออกฤทธิ์ |
ป้องกันอันตรายจากสารเคมี/วัตถุออกฤทธิ์ ในระหว่างทำการทดลอง |
-ให้นักศึกษาใช้อุปกรณ์ป้องกันที่กำหนด -ติดตั้ง อุปกรณ์ล้างสารเคมีในห้องปฏิบัติการ |
การบูรณาการ: การดูแลสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติการของวิทยาลัยนอกจากการทบทวน/ค้นหา สิ่งคุกคาม ของคณะกรรมการฯ แล้ว มีการใช้ข้อมูลที่ได้รับจากนักศึกษา ผู้ใช้บริการ และข้อมูลจากอุบัติการณ์ นอกจากนี้ นักศึกษายังมีส่วนร่วมในการดูแลสภาพแวดล้อมของวิทยาลัย เช่น สโมสรนักศึกษา จัดการรณรงค์ การสวมใส่หมวกนิรภัย การลดความเร็วเมื่อขับขี่ยานพาหนะในวิทยาลัย และการระมัดระวังเมื่อข้ามจุดตัดผ่าน ในการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น ในการแข่งขันกีฬาสี ในการจัดงานวันความปลอดภัย เป็นต้น
4 การเตรียมพร้อมด้านความปลอดภัยและภาวะฉุกเฉิน (ความต่อเนื่องทางธุรกิจ) สถาบันมีวิธีการอย่างไรเพื่อให้มั่นใจว่ามีการเตรียมพร้อมต่อภัยพิบัติหรือภาวะฉุกเฉิน
การดำเนินการ
แนวทาง: วิทยาลัยมีการจัดทำแผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต(Business Continuity Plan: BCP) เพื่อเตรียมความพร้อม และสามารถนำไปใช้ในการตอบสนองและปฏิบัติงานในสภาวะวิกฤติ หรือเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยไม่ให้สภาวะวิกฤติหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ส่งผลให้วิทยาลัยต้องหยุดการดำเนินการจัดการเรียนการสอน หรือหยุดการดำเนินกิจกรรมต่างๆ หรือยังคงมีความสามารถในการจัดการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง
การถ่ายทอดเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติ: ฝ่ายแผนและวิจัย ร่วมกับฝ่ายต่างๆ และคณะวิชา รับผิดชอบในการพิจารณาจัดทำแผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต(Business Continuity Plan: BCP) โดยได้มีการกำหนด สภาวะวิกฤต ที่เกิดจาก ภัยธรรมชาติ (เช่น น้ำท่วม) อุบัติเหตุ (เช่นอัคคีภัยในสถานประกอบการ) การแพร่ระบาดของโรคอุบัติใหม่ หรือเหตุการณ์อื่นๆ โดยทันทีที่เกิดสภาวะวิกฤติ ให้มีคณะกรรมการบริหารความต่อเนื่อง(Business Continuity Plan Team: BCP Team) ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนแผน BCP
กระบวนการจัดทำ BCP ประกอบด้วย การรับทราบเหตุฉุกเฉิน การวิเคราะห์ผลกระทบต่อกระบวนการทำงานหรือการให้บริการ(Business Impact Analysis: BIA) การกำหนดทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้เพื่อการดำเนินการต่อเนื่องในสภาวะวิกฤต และการกำหนดกลยุทธ์ความต่อเนื่องให้สอดคล้องกับทรัพยากร
แผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤตของวิทยาลัย ประกอบด้วย การตอบสนองต่อเหตุการณ์ทันที การตอบสนองระยะสั้น การตอบสนองระยะกลาง และการซักซ้อมแผน/การฝึกซ้อมแผน ทั้งแบบการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ(Table Top Exercise) และ การฝึกซ้อมเฉพาะหน้าที่(Function Exercise)
การเรียนรู้: แผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต(Bisiness Continuity Plan: BCP) ที่มีการนำไปใช้ที่ผ่านมาคือ การใช้เมื่อเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 รายละเอียดในการดำเนินการเตรียมความพร้อม ดังแสดงในตารางที่ 6.2-4-01
ตารางที่ 6.2-4-01 การดำเนินการตามแผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต COVID-19
การบริหารความต่อเนื่อง |
กิจกรรม |
กลยุทธ์ความต่อเนื่อง |
การแจ้งเหตุฉุกเฉิน (การตอบสนองทันที) |
-การประเมินความเสียหายและผลกระทบ |
-การสำรวจ นศ./บุคลากรที่ติดเชื้อ การทำทะเบียนประวัติการรักษา -การสื่อสารและรายงานสถานการณ์ให้ นศ./ผู้ปกครอง/บุคลากร -สำรวจผลกระทบต่อการให้บริการ และทบทวนความสามารถรับมือฯ -การจัดให้บุคลากรแบบ ไป-กลับ ให้เข้าพักในหอพักของวิทยาลัย |
การจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ (การตอบสนองระยะสั้น) |
-การเตรียมระบบสารสนเทศและบุคลาการ |
-ระบบสารสนเทศเพื่อการรองรับการสอน/งานธุรการแบบออนไลน์ -การอบรมบุคลากรเพื่อใช้สื่อออนไลน์ในการสอน/งานธุรการ |
-การจัดการเรียนรู้ |
-การสอนออนไลน์ โดยใช้ Google Classroom/ Google Meet -การบรรยาย ผ่าน Pod-Cast/ Pod-Bean -การส่งงาน ผ่าน e-Port Folio/ Clip ภาพ/ Clip เสียง -การจัดสัมมนาแบบ Webinar /การใช้ e-PLC. -การใช้ Application ต่างๆ ในการวัดและประเมินผล -การประชุม การเผยแพร่นวัตกรรมการสอนที่เป็น BP การสร้างขวัญ |
|
-การศึกษาดูงานของ นศ. |
-การส่งตัวแทนเข้าไปศึกษาดูงาน ควบคู่กับใช้ FB Live /You Tube |
|
การจัดการเรียนการสอนในที่ตั้ง (on site) ในระหว่างการแพร่ระบาด (การตอบสนองระยะกลาง) |
-การขอเป็นหน่วยเปิดสอนระหว่างการแพร่ระบาด |
-การยื่นขอเป็นสถาบันที่เปิดสอนในระหว่างการแพร่ระบาด -การรับการประเมินจากจังหวัด และหน่วยงานต่างๆ -การให้ความรู้บุคลากร และคนงานไม่ให้ติดเชื้อ/เมื่อติดเชื้อ -การรับการตรวจติดตามการดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐาน -การสื่อสารกับชุมชน การสร้างความเข้าใจ/จัดการข้อร้องเรียน |
-การป้องกันการแพร่ระบาด |
-การอบรมบุคลากรเพื่อตรวจคัดกรอง -การตรวจคัดกรอง และการส่งต่อเมื่อพบผู้ติดเชื้อ -การเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ และการพ่น/เช็ดเพื่อฆ่าเชื้อ -การเตรียมพื้นที่สำหรับการสังเกตอาการ/กักตัว |
|
-การจัดการเรียนรู้ |
-การเข้าเรียนในห้องเรียนแบบสลับกลุ่ม -การฝึกภาคปฏิบัติในห้องปฏิบัติการ การฝึกงาน แบบกลุ่มเล็ก |
การบูรณาการ: วิทยาลัยกำหนดแผนบริหารความพร้อมต่อสภาวะวิกฤต เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงานสำคัญ และกระบวนการสนับสนุนที่สำคัญ เพื่อให้การจัดการเรียนการสอน การผลิตบัณฑิต และการดำเนินการตามพันธกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่มีผลกระทบต่อผู้เรียน ลูกค้า หรือผู้รับบริการ
5 การพัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่สอดคล้องกับบริบทสังคมดิจิทัลที่ทันสมัย
การดำเนินการ
วิทยาลัย มีแหล่งเรียนรู้ที่เป็นสื่อดิจิทัลของวิทยาลัย เช่น ฐานข้อมูลการวิจัย ฐานข้อมูลวารสาร และ e-Book ให้บริการ ณ ศูนย์วิทยบริการ นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับหอสมุดต่างๆ เพื่อการสืบค้นแหล่งเรียนรู้ที่เป็นสื่อดิจิทัล ระหว่างมหาวิทยาลัยด้วย สำหรับการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ที่สอดคล้องกับบริบทสังคมดิจิทัลนั้น คณะวิชาต่างๆ ได้ดำเนินการจัดทำ ทั้งเพื่อการเรียนรู้ของนักศึกษา คณาจารย์ของวิทยาลัย และ เพื่อการบริการวิชาการแก่สังคมด้วย เช่นคณะมนุษยศาสตร์ จัดทำ Nakhon Nayok Channel คณะศึกษาศาสตร์ จัดทำ ฐานข้อมูลแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นและปราชญ์ท้องถิ่นในจังหวัดนครนายก การจัดทำ You Tube Channel ทางการศึกษา และ Pod-cast ทางการศึกษา เป็นต้น
6 การสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการจัดการศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม การบริการวิชาการ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม
การดำเนินการ
วิทยาลัยมีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการจัดการศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม การบริการวิชาการ การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ในหลายระดับ เช่น เครือข่ายอุดมศึกษาภาคตะวันออก เครือข่ายวิจัยและนวัตกรรมภาคตะวันออก เครือข่ายครูคืนถิ่นภาคกลางตอนล่าง เครือข่ายการประกันคุณภาพการศึกษาสถาบันอุดมศึกษาเอกชนนานาชาติ(IQAN) เครือข่ายพัฒนาการศึกษาตามโครงการ SEAMEO STEM-Ed เครือข่ายพัฒนาการศึกษาจังหวัดนครนายก เครือข่ายศิลปวัฒนธรรมจังหวัดนครนายก ตลอดจน มีการจัดทำ MOU ร่วมกันกับโรงเรียนต่างๆ ในภาคตะวันออก จำนวนมาก
สำหรับเครือข่ายความร่วมมือระดับนานาชาติ ในการจัดการศึกษา มีการจัดทำ MOU ร่วมกัน เช่น ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย South Wale, East London, Pattern(USA) เป็นต้น
การประเมินตนเอง
เป้าหมาย |
การดำเนินการ(KPIเชิงคุณภาพให้ระบุข้อ) |
การประเมินตนเอง |
||
5 ข้อ |
IQA (1-6) |
1,2,3,4,5,6 |
6 ข้อ |
5 คะแนน |
EdPEx (1-4) |
1,2,3,4 |
ร้อยละ 30 (จาก40 คะแนน) |
12 คะแนน |
รายการหลักฐาน
ผลการประเมินตนเอง
ผลการประเมินตนเอง | IQA | EdPEx |
ตัวบ่งชี้ที่ 6.1 | 5 | 13.50 |
ตัวบ่งชี้ที่ 6.2 | 5 | 12 |
คะแนนเฉลี่ย(IQA)/คะแนนรวม(EdPEx) | 5 | 25.50 |